![]() |
กุญแจคล้องพร้อมรหัสล็อคที่ผ่านมาตรฐาน TSA แบบใหม่ของคุณนี้ จะถูกตั้งรหัสล่วงหน้าเพื่อเปิดไว้ที่ตำแหน่ง 0-0-0 (ถึงแม้ว่าแป้นหมุนอาจอยู่ในตำแหน่งตัวเลขอื่น) ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนรหัสหรือตั้งรหัสใหม่ได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ การตั้งรหัสกุญแจ ให้ปฏิบัติตามขึ้นตอน ดังนี้: |
ขั้นตอนที 1 | |
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลขบนแป้นหมุนของคุณตั้งอยู่ในรหัสเริ่มต้นที่ตั้งล่วงหน้าไว้ที่ 0-0-0 | |
ขั้นตอนที 2 | |
ใช้ปลายปากกาลูกลื่นกดที่ปุ่ม (1), ค้างไว้ขณะที่คุณปรับตัวเลขแต่ละตัวบนแป้นหมุนทั้ง 3 | |
ขั้นตอนที 3 | |
เมื่อคุณได้หมุนรหัสตัวเลขแต่ละตัวให้อยูในตำแหน่งที่คุณต้องการแล้ว ค่อยๆ ปล่อยปลายปากกาออกจากปุ่ม (1) เพื่อเป็นการ | |
ขั้นตอนที 4 | |
เปิดล็อคด้วยการหมุนรหัสที่ตั้งไว้ และกดปุ่ม (4) | |
โปรดเก็บรหัสของคุณไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้เพื่อการใช้งานในอนาคต กุญแจล็อคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (TSA) และอนุญาตให้ TSA สามารถปลดล็อคกระเป๋าของคุณโดยใช้รหัสและเครื่องมือการเข้าถึงแบบพิเศษได้ ถ้ามีความจำเป็นต้องค้นกระเป๋า หลังจากนั้น TSA จะสามารถล็อคกุญแจนี้ใหม่ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกุญแจล็อคหรือกระเป๋าของคุณ |
![]() |
ล็อคใหม่ที่ผ่านการรับรอง TSA ของคุณถูกกำหนดให้เปิดที่ 0-0-0 (แม้ว่าแป้นหมุนอาจอยู่ในตำแหน่งที่หมายเลขอื่น) คุณสามารถเปลี่ยนและรีเซ็ตชุดค่าผสมของคุณได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ในการตั้งค่าล็อคของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้: |
ขั้นตอนที่ 1 | |
เริ่มต้นด้วยการตั้งหน้าปัดให้อยู่ในรหัสเริ่มต้นที่ตั้งไว้ล่วงหน้า 0-0-0 โดยปล่อยตัวดึงซิปออกจากตัวเรือน ในการทำเช่นนี้ ให้เลื่อน TSA Lock ตามลูกศรเพื่อปลดล็อคซิป | |
ขั้นตอนที่ 2 | |
เมื่อยืนยันรหัสที่ถูกตั้งไว้ล่วงหน้าแล้ว ให้นำตัวดึงซิปกลับเข้าที่ | |
ขั้นตอนที่ 3 | |
ใช้ปากกาลูกลื่นเพื่อกดปุ่มรีเซ็ตที่อยู่ติดกับแป้นหมุน หลังจากกดปุ่มรีเซ็ตแล้ว ให้ปรับแต่ละปุ่มหมุนตามที่คุณต้องการ | |
ขั้นตอนที่ 4 | |
เมื่อคุณสร้างรหัสใหม่เสร็จแล้ว ให้กดเพื่อเลื่อน TSA Lock ตามลูกศร ซึ่งจะทำให้ปุ่มรีเซ็ตเด้งขึ้นมาและปล่อยตัวดึงซิปซึ่งยืนยันว่ารหัสใหม่ของคุณได้รับการตั้งค่าแล้ว | |
เก็บชุดรหัสของคุณไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต ล็อคนี้ได้รับการออกแบบมาให้ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (TSA) และช่วยให้ TSA สามารถปลดล็อกกระเป๋าของคุณได้ โดยใช้รหัสและเครื่องมือพิเศษในการเข้าถึง หากจำเป็นต้องค้นหาสัมภาระ จากนั้น TSA สามารถล็อคล็อคนี้ใหม่ได้โดยไม่ทำให้ตัวล็อคหรือกระเป๋าของคุณเสียหาย |
![]() |
กุญแจล็อคกระเป๋าที่ผ่านมาตรฐาน TSA แบบใหม่ของคุณนี้ ถูกตั้งรหัสล่วงหน้าเพื่อเปิดไว้ที่ตำแหน่ง 0-0-0 (ถึงแม้ว่าแป้นหมุนอาจอยู่ในตำแหน่งของตัวเลขอื่น) คุณสามารถเปลี่ยนรหัสและตั้งรหัสใหม่ได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ การตั้งรหัสกุญแจ ให้ปฏิบัติตามขึ้นตอน ดังนี้: |
ขั้นตอนที 1 | |
เริ่มต้นด้วยการปลดตัวซิปออกจากกุญแจและตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลขทุกตัวบนแป้นหมุนของคุณอยู่ในตำแหน่งรหัสเริ่มต้นที่ตั้งไว้ล่วงหน้าที่ 0-0-0 | |
ขั้นตอนที 2 | |
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวซิปอยู่ที่ตำแหน่งประจำที่ภายในช่องล็อคตัวซิปอย่างแน่นหนาแล้ว | |
ขั้นตอนที 3 | |
ใช้ปลายปากกาลูกลื่นกดค้างไว้ที่ปุ่มวงกลมเล็กๆ ที่อยู่ตรงกลางของกุญแจ ในขณะที่คุณปรับตัวเลขแต่ละตัวบนแป้นหมุนทั้ง 3 หลัก | |
ขั้นตอนที 4 | |
เมื่อคุณได้หมุนรหัสตัวเลขแต่ละตัวให้อยูในตำแหน่งที่คุณต้องการแล้ว ให้ปล่อยปลายปากกาออกมาจากช่องปุ่มของกุญแจ | |
ขั้นตอนที 5 | |
กดปุ่มสี่เหลี่ยมจัตุรัสตรงกลางเพื่อปลดล็อค ตอนนี้คุณได้ตั้งรหัสกุญแลของคุณเรียบร้อยแล้ว | |
โปรดเก็บรหัสของคุณไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้เพื่อการใช้งานในอนาคต กุญแจล็อคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (TSA) และอนุญาตให้ TSA สามารถปลดล็อคกระเป๋าของคุณโดยใช้รหัสและเครื่องมือการเข้าถึงแบบพิเศษได้ ถ้ามีความจำเป็นต้องค้นกระเป๋า หลังจากนั้น TSA จะสามารถล็อคกุญแจนี้ใหม่ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกุญแจล็อคหรือกระเป๋าของคุณ |
![]() |
กุญแจที่ผ่านมาตรฐาน TSA แบบใหม่ของคุณนี้ ถูกตั้งรหัสล่วงหน้าเพื่อเปิดไว้ที่ตำแหน่ง 0-0-0 (ถึงแม้ว่าแป้นหมุนอาจอยู่ในตำแหน่งตัวเลขอื่น) ซึ่งคุณสามารถเปลี่ยนรหัสและตั้งรหัสใหม่ได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ การตั้งรหัสกุญแจ ให้ปฏิบัติตามขึ้นตอน ดังนี้: |
ขั้นตอนที 1 | |
เริ่มต้นด้วยการปลดตัวดึงซิปออกจากกุญแจและตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลขบนแป้นหมุนทุกตัวอยู่ในตำแหน่งรหัสเริ่มต้นที่ตั้งไว้ล่วงหน้าที่ 0-0-0 | |
ขั้นตอนที 2 | |
ตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวซิปอยู่ในตำแหน่งประจำที่ภายในช่องล็อคตัวซิปอย่างแน่นหนาแล้ว | |
ขั้นตอนที 3 | |
ใช้ปลายปากกาลูกลื่นกดค้างไว้ที่ปุ่มวงกลมเล็กๆ ที่มุมล่างซ้ายของกุญแจล็อค ในขณะที่คุณปรับตัวเลขแต่ละตัวบนแป้นหมุนทั้ง 3 หลัก | |
ขั้นตอนที 4 | |
เมื่อคุณได้หมุนรหัสตัวเลขแต่ละตัวให้อยูในตำแหน่งที่คุณต้องการแล้ว ให้ปล่อยปลายปากกาออกมาจากช่องปุ่มของกุญแจ | |
ขั้นตอนที 5 | |
กดปุ่มปลดล็อกปุ่มใหญ่ที่อยู่ด้านขวาของโลโก้ TUMI หากซิปหลุดออกมาจากตัวล็อคซิป แสดงว่าคุณตั้งรหัสกุญแจล็อคของคุณได้ถูกต้องแล้ว | |
โปรดเก็บรหัสของคุณไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้เพื่อการใช้งานในอนาคต กุญแจล็อคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (TSA) และอนุญาตให้ TSA สามารถปลดล็อคกระเป๋าของคุณได้โดยใช้รหัสและเครื่องมือการเข้าถึงแบบพิเศษ ถ้ามีความจำเป็นต้องค้นกระเป๋า หลังจากนั้น TSA จะสามารถล็อคกุญแจนี้ใหม่ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกุญแจหรือกระเป๋าของคุณ |
![]() |
กุญแจล็อคกระเป๋าที่ผ่านมาตรฐาน TSA แบบใหม่ของคุณนี้ ถูกตั้งรหัสล่วงหน้าเพื่อเปิดไว้ที่ตำแหน่ง 0-0-0 (ถึงแม้ว่าแป้นหมุนอาจอยู่ในตำแหน่งของตัวเลขอื่น) คุณสามารถเปลี่ยนรหัสและตั้งรหัสใหม่ได้บ่อยเท่าที่คุณต้องการ การตั้งรหัสกุญแจ ให้ปฏิบัติตามขึ้นตอน ดังนี้: |
ขั้นตอนที 1 | |
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าตัวเลขทุกตัวบนแป้นหมุนของคุณอยู่ในตำแหน่งรหัสเริ่มต้นที่ตั้งไว้ล่วงหน้าที่ 0-0-0 จากนั้นกดปุ่มที่ด้านข้างเพื่อเปิดกุญแจ | |
ขั้นตอนที 2 | |
เมื่อตัวล็อคเปิด ใช้ปลายปากกาลูกลื่นกดที่ปุ่มตั้งค่า และกดค้างไว้ในขณะที่คุณปรับตัวเลขแต่ละตัวบนแป้นหมุนทั้ง 3 หลัก | |
ขั้นตอนที 3 | |
เมื่อคุณได้หมุนรหัสตัวเลขแต่ละตัวให้อยูในตำแหน่งที่คุณต้องการแล้ว ให้ปล่อยปลายปากกาออกมาจากช่องปุ่มของกุญแจ ซึ่งตอนนี้กุญแจได้ถูกตั้งรหัสเปิดด้วยรหัสส่วนตัวของคุณแล้ว | |
โปรดเก็บรหัสของคุณไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้เพื่อการใช้งานในอนาคต กุญแจล็อคนี้ถูกออกแบบมาเพื่อให้ได้รับการยอมรับจากหน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา (TSA) และอนุญาตให้ TSA สามารถปลดล็อคกระเป๋าของคุณโดยใช้รหัสและเครื่องมือการเข้าถึงแบบพิเศษได้ ถ้ามีความจำเป็นต้องค้นกระเป๋า หลังจากนั้น TSA จะสามารถล็อคกุญแจนี้ใหม่ได้โดยไม่ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกุญแจล็อคหรือกระเป๋าของคุณ |
![]() |
รหัสล็อคของคุณถูกตั้งค่าให้เปิดที่ 0-0-0 (แม้ว่าแป้นหมุนอาจอยู่ที่หมายเลขอื่น) คุณสามารถเปลี่ยนและรีเซ็ตรหัสของคุณได้บ่อยเท่าที่ต้องการ ในการตั้งค่าล็อคของคุณ ให้ทำตามขั้นตอนเหล่านี้: |
ขั้นตอนที 1 | |
เริ่มต้นด้วยการตรวจสอบให้แน่ใจว่าทุกหลักบนหน้าปัดของคุณ [B] ถูกตั้งค่าในรหัสเริ่มต้นที่ตั้งไว้ล่วงหน้าที่ 0-0-0 | |
ขั้นตอนที 2 | |
เลื่อนปุ่มสี่เหลี่ยม [C] ไปทางซ้ายจนกว่ากระเป๋าเอกสารจะปลดล็อคด้วยเสียงคลิก | |
ขั้นตอนที 3 | |
เปิดกระเป๋าเอกสาร ค้นหาคันโยกรีเซ็ต [A] ซึ่งควรอยู่ในตำแหน่งทางซ้าย นี่คือตำแหน่งเดิม เลื่อนคันโยกขึ้นและไปทางขวา ขณะที่เปิดกระเป๋าเอกสาร ให้ตั้งรหัสสามหลักส่วนตัวของคุณ หลังจากนั้นให้คืนคันโยกกลับไปที่ตำแหน่งเดิม กระเป๋าเอกสารของคุณพร้อมใช้งานกับรหัสแล้ว | |
หมายเหตุ: ต้องคืนคันโยกรีเซ็ต [A]
ไปที่ตำแหน่งเดิมหลังจากเลือกรหัสสามหลักของคุณแล้ว
รหัสสามหลักจะถูกตั้งค่าหลังจากคันรีเซ็ต [A] อยู่ในตำแหน่งเดิมเท่านั้น
หากคันโยกไม่กลับสู่ตำแหน่งเดิมหลังจากตั้งรหัสและปิดกระเป๋าเอกสารแล้ว
แสดงว่าไม่ได้ตั้งค่ารหัสอย่างถูกต้อง
และวิธีเดียวที่จะเปิดกระเป๋าเอกสารได้คือการปลดล็อคกุญแจ
รหัสสามารเปลี่ยนได้ตลอดเวลาโดยทำตามขั้นตอนที่แสดงด้านบน
เก็บรหัสของคุณไว้ในที่ปลอดภัยและเข้าถึงได้เพื่อใช้อ้างอิงในอนาคต |